ประเทศญี่ปุ่นจะเปลี่ยนแปลงการขอถิ่นที่อยู่เพื่อความทันสมัยหรือไม่?

ในปัจจุบันรัฐบาลญี่ปุ่นกำลังตัดสินใจว่าจะให้มีการจัดหาที่พักอาศัยสำหรับนักศึกษาต่างชาติที่ศึกษาด้านการ์ตูนอะนิเมชั่น การออกแบบ และการทำอาหารแบบมืออาชีพ ตามรายงานจากสื่อJapan Times จุดประสงค์คืออะไร? เพื่อทำให้นักศึกษาที่ศึกษาในสาขาเหล่านี้จบการศึกษาแล้วสามารถหางานทำไดง่ายยิ่งขึ้น นี่เป็นข้อเสนอที่เข้าใกล้ปัญหามากขึ้น บวกกับสาเหตุว่าทำไมผู้เชี่ยวชาญจึงออกมากล่าวถึงความเปลี่ยนแปลงนี้ว่าเป็นสิ่งที่จำเป็น

สนับสนุนอุตสาหกรรมงานเขียนของประเทศญี่ปุ่น
ตามที่ประเทศญี่ปุ่นมีเป้าหมายในการส่งเสริมวัฒนธรรมญี่ปุ่นในต่างประเทศ การคงไว้ของความสามารถพิเศษที่เหมาะสม เป็นปัญหาที่วิกฤติของความเท่าเทียมกัน กล่าวโดยผู้เชี่ยวชาญ การก้าวเข้ามาสู่การเรียกร้องถึงความเปลี่ยนแปลง เพื่อการจัดหาที่อยู่อาศัย ปัจจุบันสถานะของผู้อยู่อาศัย มีความจำเป็นสำหรับการสำเร็จการศึกษาของนักศึกษาต่างชาติ สถานะนั้นขึ้นอยู่กับสิ่งเหล่านี้ “พวกเขาสามารถใช้ความรู้เฉพาะทาง และเทคนิคต่างๆที่พวกเขาได้รับจากโรงเรียนอาชีวะศึกษา หรือมหาวิทยาลัยในประเทศญี่ปุ่น กล่าวโดยสื่อJapan Times

ขยายโอกาสให้กว้างขึ้น
อย่างไรก็ตาม การขอสถานะถิ่นที่อยู่อาศัยสำหรับการทำงานนั้นถูกจำกัด สำหรับทักษะวิชาชีพขั้นสูง โครงการจากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ กล่าวว่า มันเป็นอันตรายสำหรับคนทำงานในแวดวงอุตสาหกรรมสารัตถะ ผู้ซึ่งอาจมีบทบาท และความรับผิดชอบที่ซับซ้อนน้อยกว่า ในขณะที่พวกเขาเข้ามาทำงานแบบใช้แรงงาน เนื่องจากสิ่งเหล่านี้ ทางรัฐบาลกำลังประเมินว่าควรอนุญาตในระยะยาวมากกว่า2ปี หรือยาวนานจนกระทั่งถูกเลิกจ้างดีหรือไม่
ยิ่งไปกว่านั้น การเปลี่ยนถิ่นที่อยู่อาศัย รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังพิจารณาว่าจะต่อระยะเวลาให้กับนักศึกษาต่างชาติสามารถอาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่นเพื่อหางานได้ ในปัจจุบันผู้ที่สำเร็จการศึกษามาแล้วเพียง6เดือน เพื่อหางาน แต่ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ระยะเวลาเท่านี้ยังไม่เพียงพอสำหรับความรับผิดชอบของพวกเขา เพื่อทำโครงการจบการศึกษา

คิดถึงเรื่องของระยะเวลาที่ควรจะเปลี่ยนให้เหมาะสมควรเป็นเท่าไหร่ดี? อย่างเร็วที่สุดการขอถิ่นที่พักอาศัยจะมีผลบังคับใช้ในปีถัดไป ตามงานช่วยระยะเวลาของการวิจัย ที่ทางรัฐบาลจะสำรวจจากทั้งด้านอุตสาหกรรม และด้านวิชาการ เพื่อพิจารณาหาข้อสรุปที่ดีที่สุดเพื่อให้มีผลบังคับใช้

สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้
โจอันนาเคยทำงานในส่วนของการจัดการทางด้านการศึกษาระดับสูง มาเป็นระยะเวลาหลายปี ที่สถาบันวิจัยชั้นนำ ก่อนจะผันตัวมาเป็นนักเขียนอิสระ เธออาศัยอยู่ที่รัฐWhite Mountains ที่สวยงามของเมืองNew Hampshire กับครอบครัวของเธอ

วิธีหาต้นคริสต์มาสในประเทศญี่ปุ่น

ต้นคริสต์มาสต้นแรกของฉันในประเทศญี่ปุ่น ฉันได้มาตอนเดินอยู่ตามริมถนนในเมืองโตเกียวกับสามีของฉัน(ตอนนั้นเป็นคู่หมั้นกัน) มันเป็นการท่องเที่ยวแบบสั้นๆ เพื่อมางานคริสต์มาสอีฟเท่านั้น แต่ฉันกลับไปที่อพาร์ทเม้นท์ของฉันอีกหนึ่งวันถัดมา โดยที่ไม่มีร่องรอยของวันคริสต์มาสเลย ไม่มีต้นไม้ ไม่มีแสงไฟ และไม่มีการตกแต่งใดๆทั้งสิ้น
อย่างบางคนชื่นชอบวันคริสต์มาสเป็นอย่างมาก …..ส่วนมากสิ่งที่ฉันได้รับคือการไปเยี่ยมเยือนเมืองที่ใกล้กับเมืองของฉัน เพื่อดู “อิลลูมิเนชั่น” (สิ่งที่พวกเขาเรียกแสงไฟที่นำมาประดับแสดงในช่วงวันคริสต์มาสของที่นี่) ดังนั้นวันคริสต์มาสที่จะถึงนี้ ฉันมั่นใจว่าจะซื้อต้นไม้มาทำเองขนาด150ซม. และจะตกแต่งเอง แต่ฉันจะไม่ใช้ไฟมาประดับ เพื่อความประหยัด
แน่นอนว่าฉันรู้ว่าไม่ทุกคนที่จะฉลองงานคริสต์มาส ดังนั้นถ้ารู้สึกไม่สบายใจที่จะทำ ก็ไม่ต้องสนใจ สำหรับคนที่อยากฉลองงานวันคริสต์มาส และต้องการทำต้นคริสต์มาสขึ้นมาในบ้านของคุณเอง ลองดูตัวเลือกต่างๆเหล่านี้ และจำไว้ว่าต้นคริสต์มาสในภาษาญี่ปุ่นคือ クリスマスツリー (kurisumasu tsurii)
ของปลอม กับของจริงดี?

ฉันจะไม่พูดถึงเกี่ยวกับต้นไม้ปลอม กับต้นไม้จริง เพราะฉันกำลังสันนิษฐานว่าคุณสามารถค้นหาได้จากที่อื่นๆบนอินเตอร์เน็ต ตอนนี้ถ้าคุณต้องการต้นไม้จริง ตัวเลือกของคุณในประเทศญี่ปุ่นมีค่อนข้างจำกัด แล้วส่วนใหญ่ค่อนข้างแพง(ร้านIkeaถือเป็นข้อยกเว้น) ต้นไม้ปลอมนั้นหาง่าย มีราคาหลากหลายจากถูกสุดไปแพงสุด ขึ้นอยู่กับขนาด ร้านที่คุณซื้อ หรือเป็นต้นไม้ที่มีการตกแต่งแล้วสำเร็จรูปหรือไม่

สถานที่จะหาต้นคริสต์มาสจริงในประเทศญี่ปุ่น
1.ร้านIkea ใช่ ร้านIkeaมีต้นไม้จริงจำหน่าย แต่คุณจะต้องอยู่ใกล้ร้าน หรืออย่างน้อยก็ต้องใช้บริการจัดส่ง ฉันคิดว่าคุณอาจจะขับรถไกลเพื่อไปซื้อมาต้นนึง ถ้าคุณต้องการซื้อมันจริงๆ ต้นไม้ราคา1,990เยน ส่วนสูงประมาณ100-120ซม. ตามหน้าเว็บไซต์ (ดูได้จากลิงค์)
2. กองทหาร ถ้าคุณอยู่ใกล้กองทหารที่ไหนสักแห่ง และรู้จักใครสักคน คุณสามารถซื้อต้นไม้จริงได้ที่นั่น

3.ส่วนท้องถิ่น และร้านขายวัสดุก่อสร้าง ไม่ใช่ทุกที่ที่จะมีต้นไม้จริงขาย (จริงๆแล้วส่วนใหญ่ไม่มีขาย) แต่เป็นไปได้ที่จะมี ไม่ว่ากรณีใดๆ ถ้าร้านเหล่านั้นไม่มีขาย คุณสามารถซื้อต้นคริสต์มาสสีแดงต้นเล็กมาแทน แม้ว่าฉันเคยเห็นต้นสีเขียวเหลืองในกระถางต้นไม้ขนาดเล็ก ที่คล้ายกับต้นไม้เขียวชะอุ่ม
4.ตัดด้วยตนเอง แม้ว่าฉันไม่มั่นใจว่าที่ไหนที่คุณอาจหาต้นไม้ได้ และฉันไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อกิจกรรมที่ผิดกฎหมายนี้
5. ร้านค้าปลีกคอสท์โค ฉันยังไม่เคยไปที่ร้านคอสท์โค ในประเทศญี่ปุ่นเลย (เศร้า) แต่ฉันได้ยินมาว่าคุณสามารถซื้อต้นคริสต์มาสได้ที่นั่น ตามที่ผู้เสนอความคิดเห็น ต้นคริสต์มาสในร้านคอสท์โคเป็นสินค้าที่ไม่มีตลอด ถ้าคุณอาศัยอยู่ใกล้กับร้านค้าดังกล่าว ลองเข้าไปดูรอบๆร้านในตอนนี้ เป็นไปได้ที่ตอนนี้จะยังมีต้นคริสต์มาสจำหน่ายอยู่
6. [ใส่ความคิดใหม่ๆของคุณตรงนี้]
สถานที่ที่จำหน่ายต้นคริสต์มาสปลอม

ต้นคริสต์มาสปลอม หรือต้นที่ทำมือ ในทางกลับกัน มันค่อนข้างมีอยู่ในทุกหนแห่ง
ร้านวัสดุก่อสร้างในพื้นที่ของคุณน่าจะมีต้นคริสต์มาสแบบทำเองจำหน่ายอยู่ และราคาค่อนข้างถูก แต่ส่วนใหญ่มีขนาดเล็ก (100-150ซม.) อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณไม่สามารถหาต้นคริสต์มาสได้ที่นั่น หรือไม่อยากแบกต้นคริสต์มาขึ้นรถจักรยานกลับบ้าน (แต่ต้นคริสต์มาสเหล่านั้นถูกห่อมาอย่างดีใส่กล่องแล้ว และแยกชิ้นส่วนมา) มีหลากหลายตัวเลือกให้ซื้อ (และนี่คือรายการที่ไม่ครอบคลุมใดๆเลย)
“จำไว้ว่าต้นไม้จะมาในรูปแบบที่มีการแต่งตกเรียบร้อยแล้ว ในขณะที่แบบอื่นๆจะไม่มีการตกแต่งใดๆเลย บางครั้งต้นคริสต์มาสเหล่านั้นที่ไม่มีการตกแต่ง ในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า “ヌード” (เปลือย) และแสงไฟที่นำมาประดับเป็นชนิดLED มีราคาแพงอย่างไม่น่าเชื่อ ดังนั้นถ้าคุณต้องการไฟมาประดับ ต้องเตรียมเงินสดเพื่อจ่าย แต่มีอยู่ครั้งนึงฉันสามารถหาไฟแบบที่ไม่ใช่LEDได้ในร้านLoft ”

1.เว็ปAmazon.jp มีตัวเลือกมากมายที่นี่ มีหลากหลายชนิด และขนาด

2.ร้านLoft ต้นคริสต์มาสส่วนใหญ่ ฉันเห็นแบบตกแต่งเรียบร้อยแล้ว แต่มันยังคงดูดีมีราคา

3.ร้านTokyu Hands ต้นคริสต์มาสจากร้านTokyu Hands (แม้กระทั่งบนร้านค้าออนไลน์) ดูเหมือนจะมาแบบประดับมาเรียบร้อย พร้อมกับไฟแล้ว และต้นคริสต์มาสราคาไม่ถูก บนร้านค้าออนไลน์ และที่หน้าร้านในเมืองใหญ่ (เมืองโตเกียว นาโกย่า และอื่นๆ)

4.ร้านNitori เป็นร้านค้าออนไลน์ และมีหน้าร้านทั่วประเทศญี่ปุ่น

ถ้าคุณต้องการตัวเลือกมากกว่านี้ ลองเข้าไปค้นหาในgoogle แล้วพิมพ์คำว่า クリスマスツリー เตรียมเครื่องช่วยแปลภาษาให้พร้อมถ้าจำเป็น และดูว่าคำนี้จะแปลว่าอะไร

ดังนั้น ถ้าคุณพบต้นคริสต์มาสจริงในปีนี้ (หรือที่ผ่านมา) สามารถแบ่งปันกับเราได้ว่ามีขายที่ไหน และพบได้อย่าไรในกล่องแสดงความคิดเห็น สำหรับใครที่ต้องการแบ่งปันสถานที่จำหน่ายต้นคริสต์มาสปลอม หรือทำมือ กรุณาบอกเราว่าอยู่ที่ไหน (จะเป็นประโยชน์มากขึ้นกับผู้อ่านท่านอื่นๆที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม)

40+5ทางเพื่ออยู่รอดในช่วงหน้าฝนในประเทศญี่ปุ่น

ฝนเริ่มตกก่อน 12วัน เมื่อเทียบกับภาคกลางของญี่ปุ่นเมื่อปีที่แล้ว ตามที่เว็บไซต์ tenki.jp และเร็วกว่าปกติทางภาคใต้ของประเทศญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน แม้ว่าจะยังไม่รู้สึกถึงความชื้น แต่ฉันก็ยังรู้สึกถึงความอบอ้าวจากอากาศ ที่ทำให้ฉันรู้เหมือนตัวฉันอยู่ในห้องอบซาวน่า

อย่าไปหัวเสียกับมัน เป็นไปได้ว่าฝนจะค่อยๆเคลื่อนเข้าใกล้พวกเราก่อนที่พวกเราจะรู้ตัว ตอนนี้ลูกในท้องของฉันกำลังเพลิดเพลินไปกับอุณหภูมิกลางๆ และระดับความชื้นที่สามารถรับได้ประมาณนี้

โอ้ แล้วสำหรับใครที่อาจไม่รู้ จริงๆแล้วฝนไม่ได้ตกตลอดในช่วงหน้าฝนอย่างเดียวในญี่ปุ่น แต่ยังมีฝนห่าใหญ่ทีเกิดขึ้นจากธรรมชาติ หรือบางครั้งฝนก็ตกเบา ตกแรงสลับกันไป ตกๆหยุดๆสลับกันไปในแต่ละพื้นที่

ก่อนมาที่ประเทศญี่ปุ่น ฉันตั้งรกรากอยู่ที่เมืองซีแอตเติล ประเทศสหรัฐฯ ฉันไม่ค่อยได้ใช้ร่ม ในความจริงแล้วมันง่ายมากเลยทีเดียวที่จะแยกระหว่างคนในท้องถิ่น กับนักท่องเที่ยวในเมืองซีแอตเติล โดยใช้เหตุผลข้างต้นนี้ (ทุกคนคิดว่าฝนตกที่นั่นตลอดเวลา แต่จริงๆแล้วไม่ใช่ โดยส่วนใหญ่มีเพียงมีเมฆหนา)

ดังนั้น ฉันมาประเทศญี่ปุ่นโดยไม่มีร่ม คิดดูสิ ฉันวามารถซื้อร่มได้ไม่ว่าจะที่ไหนได้อย่างง่ายดาย (แต่ไม่ต้องรีบร้อน) ยกเว้นแต่เพื่อนของฉัน และฉันป่วยจากการโดนฝนในวันที่สองตอนอยู่ที่นี่ ไม่เหมือนที่เมืองซีแอตเติลที่เราเคยอยู่เลย ฝนตกห่าใหญ่ กับฝนตกปรอยๆสลับกันแบบนี้

ในขณะที่พวกเราอยู่ข้างนอกโดยไม่มีที่กำบัง พวกเราเปียกโดยทันที (ราวกับว่าพวกเราตกลงไปในสระน้ำ หรืออะไรสักอย่าง) และใช้เวลาอยู่ในนั้น 10นาที หรือวิ่งจากตึกที่มีหลังคากำบัง ไปยังตึกข้างๆที่เป็นร้านสะดวกซื้อ เพื่อซื้อร่ม (แน่นอนว่าคนขายที่อยู่ข้างทางหัวเราะอย่างอดไม่ได้กับท่าทางของเรา)

แน่นอนว่าพวกเราซื้อร่ม แล้วเดินออกมาจากร้าน ฝนก็หยุดตก นั่นคือประเทศญี่ปุ่น ทุกคนมองเราอย่างแปลกๆ เมื่อพวกเราเดินเข้าไปในโรงแรมอีกครั้ง โดยมีน้ำหยดลงพื้นตามทางที่เดินไป นี่เป็นบทเรียนที่สอนให้พวกเรารู้ว่า ในระหว่างฤดูฝน ให้พกร่มไปด้วยตลอดเวลา

ดังนั้น รางวัลที่จะมอบให้แด่การมาของฤดูฝนในปีนี้ ฉันได้นำวิธีต่างๆมาจากเอกสารที่มีประโยชน์ ดังนี้
บทความเรื่อง 40 tips to survive the rainy season in Japan

มีคำแนะนำมากมายในช่องแสดงความคิดเห็น ดังนั้นเพื่อให้ทุกคนได้อ่านด้วย ฉันจึงได้เพิ่มลงไปด้วยเช่นกัน
4.1 ลืมหมายเลข4 ในรายการก่อนหน้านี้ แนวทางอนุรักษ์พลังงานทั้งหมด พวกเราควรทำ โดยวิธีการออกไปข้างนอกแทน และออกไปรับอากาศ แทนที่จะใช้มันที่บ้าน (แม้ว่าอุณหภูมิ ในตอนนี้ ไม่จำเป็นต้องมีเครื่องปรับอากาศก็ตาม)
42. เข้าเว็บ tenki.jp หรือ yahoo เพื่อค้นหาวิธีการซักผ้าในอีก 2-3วันข้างหน้า ดังนั้นคุณรู้เวลาที่เหมาะสมที่จะซักผ้า (จำไว้ว่า ให้ตากผ้าข้างในบ้าน หรือใช้เครื่องอบผ้า ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ดีกว่า เมื่ออากาศมันชื้น หรือเปียกมากๆ)
43. ออกไปเที่ยว และช่วยเศรษฐกิจของญี่ปุ่น! แน่นอนว่าอากาศหน้าฝนไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนอยากได้ แต่การท่องเที่ยวค่อนข้างจะซบเซาในช่วงนี้ คุณอาจคิดว่าเป็นข้อเสนอที่ดี และบางทีคนก็จะน้อย อีกทั้งบางที่ในประเทศญี่ปุ่นดูเหมือนจะมีฝน และเมฆหนาแน่นตลอด เพียงแค่ถือร่มเป็นพอ
44. พกไฮโดรเจน พีโรไซด์ เพื่อช่วยทำความสะอาดพวกเชื้อราที่จะ….. โดยเฉพาะในห้องน้ำ หรือพื้นที่อาบน้ำ (ไฮโดรเจน พีโรไซด์ ที่เป็นชนิดจากธรรมชาติ ไม่ใช่สารเคมีแบบตัวยาฟอกขาว)
45. ผสมน้ำส้มสายชู และน้ำ ถ้าคุณสังเกตว่าเสื้อผ้าของคุณมีกลิ่นแย่ โดยเฉพาะในส่วนของใต้วงแขน แล้วนี่ น้ำส้มสายชูกับน้ำเปล่าในบริเวณนั้น หลังจากที่คุณถอดเสื้อ แล้วทำความสะอาดอย่างปกติ ฉันพบว่าสิ่งนี้สามารถช่วยกำจัดกลิ่นใต้วงแขนได้ และน้ำส้มสายชูเป็นสิ่งที่ดีมากที่จะช่วยทำความสะอาดบริเวณรอบบ้าน!
46. หลีกเลี่ยงแอ่งน้ำ และรถยนต์ที่ป้ายรถประจำทาง จากคุณJaydeejapan
47. ถ้าคุณมีผิวมัน แล้วออกไปข้างนอก ให้พกกระดาษซับหน้ามัน นอกจากผ้าเช็ดตัว นี่จะเป็นตัวช่วยที่ดี จากคุณ Bhatiavaibhav (ผู้ที่แสดงความคิดเห็นด้านล่าง)
48. ลองใช้พืชตระกูลส้มดู! จากคุณkirsty_girl “ฉันพบว่าการกินผลไม้จำพวกส้มในตอนเช้านั้นจะช่วยได้ ฉันไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะอะไรหรอกนะ”
49. น้ำมันจากต้นชา ช่วยในเรื่องของเชื้อรา Magicacorn กล่าวว่า:
มันทำงานเหมือนมีเวทมนต์ ที่สามารถฆ่า และปกป้องการเจริญเติบโตของรา และเชื้อราที่เป็นดวงบนส่วนต่างๆของเสื้อผ้า สู่ไม้ และสู่กระเบื้อง คุณเพียงผสม 1ช้อนชา กับน้ำ1แก้วในขวดสเปรย์ และฉีดลงไป กลิ่นอาจค่อนข้างแรง แต่ไม่ทำให้รู้สึกฉุนอะไร และมันจะหายไปภายใน 1หรือ2วัน แม้กระทั่งบางทีฉันใช้ใส่ลงไป1-2ช้อนชา ลงในเครื่องซักผ้า ถ้าฉันมีผ้าเช็ดตัวที่มีกลิ่นเหม็นอับ คุณสามารถใช้น้ำมันที่ใช้สำหรับนวดร่างกายฝนปริมาณมากได้ด้วยเช่นกัน ฉันพูดอะไรไม่ได้อีกแล้ว ฉันรักเจ้าสิ่งนี้มาก!
50. ใช้น้ำส้มสายชูเพื่อขจัดแมลงเล็กๆที่มารบกวน คุณBrandon (@Pickmybran) กล่าวว่า: การกำจัดพวกแมลงต่างๆเหล่านี้ คุณควรผสมน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ล (ringo-su) กับน้ำเปล่าลงในชาม จากนั้นทาทิ้งไว้ในบริเวณที่มีแมลงเหล่านั้นอยู่
51. ใจเย็นดั่งแตงกวา (และผลไม้!) คุณBrandon แนะนำอีกด้วยว่า: ผักดิบนั้นอร่อยในช่วงฤดูร้อน ลองน้ำเต้า ซูกินี พริกไทยชนิดต่างๆ หรือกระเจี๊ยบดิบ ผักเหล่านี้จะทำให้สุขภาพดี แต่ถ้ามันไม่ได้เอามาปรุงอาหาร มันจะเย็นมากในปาก
52. จัดงานเลี้ยง! อาจจะใช้ความชื้นเป็นข้ออ้าง เพื่อนำมาเพิ่มบรรยากาศตามฤดูกาล ขอขอบคุณคุณBrandon
53. [คำแนะนำของคุณใส่ตรงนี้] หลังจากอ่าน40ข้อข้างต้นนี้ สิ่งอื่นที่คุณจะแนะนำให้ทำ เพื่อให้ผ่านน่าฝนนี้ไปให้ได้ มีอะไรบ้าง?

ขยายโอกาสให้กว้างขึ้น

ในการทำงาน คุณจำเป็นต้องเข้าใจภาษาญี่ปุ่นเป็นอย่างดี นอกจากคุณจะสอนภาษาอังกฤษ
ลองดูเกี่ยวกับรูปแบบของการเขียนประวัติเพื่อสมัครงาน (CV) และการสัมภาษณ์งาน
ประเทศญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในประเทศที่มีเศรษฐกิจดีที่สุดในโลก โดยเด่นในเรื่องการออกแบบด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และอุตสาหกรรมการผลิต
ตลาดแรงงาน
มีโอกาสอะไรบ้างที่คุณจะได้งาน?
แรงงานต่างชาติที่กำลังมองหางานในประเทศญี่ปุ่นอยู่ โดยปกติแล้วมีอยู่สองตัวเลือก คือ งานที่ไม่ใช้ทักษะ และงานที่ใช้ทักษะในการทำงาน อย่างครูสอนภาษา ธุรกิจต่างประเทศ และผู้เชี่ยวชาญพิเศษทางด้านเทคโนโลยี
ประเทศญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในประเทศที่มีเศรษฐกิจดีที่สุดในโลก เด่นในเรื่องการออกแบบด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และอุตสาหกรรมการผลิต คุณต้องมั่นใจว่าคุณสามารถได้วีซ่าที่ครอบคลุมชนิดงานที่คุณต้องการในประเทศญี่ปุ่นได้ และบางทีงานอาจต้องใช้ทักษะภาษาญี่ปุ่นอย่างมากในการทำงาน สำหรับงานที่ใช้ภาษาญี่ปุ่นน้อย หรือไม่ใช้เลยนั้น ตัวเลือกที่ดีที่สุดของคุณ ก็คือครูสอนภาษาอังกฤษ
สำหรับตำแหน่งงานทั้งหมดในประเทศญี่ปุ่นนั้น คุณต้องมีประสบการณ์ในการทำงานสาขานั้นมาก่อน และบางพื้นที่ มีงานที่ทำกับบริษัทต่างชาติในประเทศอังกฤษ และย้ายมาประจำที่ประเทศญี่ปุ่นหลังจากทำงานได้ประมาณ2ปี ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีอีกทางหนึ่ง

คุณสามารถทำงานที่ไหน?
อุตสาหกรรมหลัก: ไฟฟ้า หุ่นยนต์ เครื่องยนต์ยานพาหนะ การสื่อสาร การผลิตอาหาร เคมี ต่อเรือ เหล็กและเครื่องจักร
งานที่ได้รับความนิยม: เทคโนโลยีจุลภาค เทคโนโลยีชีวภาพ พลังงานทางเลือก การตลาดแบบดิจิตัล
งานที่กำลังขาดแคลน: มีงานหลายประเภทที่คุณสามารถได้รับวีซ่าทำงาน รวมไปถึงงานด้านวิชาการ ศิลปิน นักลงทุนหรือผู้จัดการด้านธุรกิจ บริการด้านกฎหมาย หรือด้านบัญชี งานบริการด้านการแพทย์ นักวิจัย ครูผู้สอน วิศวกร ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านมนุษยศาสตร์ ผู้ให้ความบันเทิง หรือแรงงานที่ใช้ทักษะ
บริษัทใหญ่: บริษัทมิทซูบิชิ บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ บริษัทนิปปอน เทเลกราฟ แอนด์ เทล บริษัทด้านการเงินซูมิโทโม มิทซุย บริษัทด้านการเงินมิซูโฮ บริษัทนิสสัน มอเตอร์ บริษัทฮอนด้า มอเตอร์ บริษัทฮิตาชิ บริษัทแคนนอน

การทำงานในประเทศญี่ปุ่นมีลักษณะอย่างไร?
ชั่วโมงการทำงานโดยเฉลี่ย: 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ทั้งหมด 5วัน แต่อาจมีลูกจ้างบางส่วนทำมากกว่านั้น
วันหยุด: โดยเฉลี่ยประมาณ 18.5 วันต่อปี โดยมีวันหยุดนักขัตฤกษ์อีก 15วัน
อัตราการจ่ายภาษี: จำนวนการจ่ายภาษีที่คุณจะจ่ายให้กับประเทศญี่ปุ่นนั้น ขึ้นอยู่กับว่าคุณอาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่นนานแค่ไหนแล้ว และเป็นเงินเท่าไหร่ที่คุณต้องจ่าย อัตราภาษีเงินได้แตกต่างกันไป เริ่มต้นจาก 5% จนถึง 45% ขึ้นอยู่กับระดับของเงินเดือน อย่าลืมตรวจสอบภาษีที่ประเทศอังกฤษด้วยล่ะ และของบริษัท HM Revenue & Custom (HMRC) ในส่วนของประกันแห่งชาติ เพื่อมั่นใจว่าคุณจะสูญเสียเงินค่าบำนาญในประเทศอังกฤษ

การสมัครงาน
คุณจำเป็นต้องมีวีซ่าที่ถูกต้องเพื่อทำงานในประเทศญี่ปุ่น และคุณควรพยายามหางาน ก่อนที่คุณจะออกท่องเที่ยว โฆษณารับสมัครงานมีมากมาย อยู่บนเว็บไซต์ และแบบฟอร์มออนไลน์การสมัครงาน ก็ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลาย
คุณสามารถติดต่อบริษัทได้โดยตรงสำหรับงานที่คุณสนใจ เพื่อดูว่าพวกเขาสามารถให้โอกาสในการทำงานได้หรือไม่ และพยายามสร้างความสัมพันธ์ที่เป็นประโยชน์ต่อกัน
CV หรือประวัติที่ใช้ในการสมัครงานในประเทศญี่ปุ่น ถูกเรียกในภาษาญี่ปุ่นว่า rirekisho ควรมีความยาวประมาณ 2-3หน้ากระดาษ โดยรวมเนื้อหาจะคล้ายกับที่ใช้ในประเทศอังกฤษ คุณต้องเขียนถึงประวัติการศึกษาของคุณ และรายละเอียดของแผนการอาชีพในอนาคตไว้ด้วย ผู้ว่าจ้างจำนวนมากมีแบบฟอร์มrirekishoให้คุณ เพื่อกรอกรายละเอียดลงไป ซึ่งจะมีหลายส่วนให้คุณกรอก แทนที่จะรับCVของคุณที่นำมาเอง ผู้ว่าจ้างชาวญี่ปุ่นจะให้ความสนใจกับทัศนคติ และคุณสมบัติเป็นอย่างมาก การศึกษาก็ด้วยเช่นกัน ดังนั้นการอ่านโฆษณารับสมัครงานต้องอ่านให้รอบคอบ ดูว่าผู้ว่าจ้างต้องการอะไรจากคุณบ้าง
การใส่รายละเอียดเกี่ยวกับความสามารถทางภาษาญี่ปุ่นในใบสมัครก็มีความสำคัญเช่นเดียวกัน หรือถ้าคุณรู้ภาษาญี่ปุ่น แล้วคุณสามารถเขียนภาษาญี่ปุ่นได้ ก็ให้กรอกใบสมัครงานด้วยภาษาญี่ปุ่นทั้งหมดยิ่งดี
การสัมภาษณ์งานค่อนข้างจะเป็นทางการ และคุณอาจต้องมาสัมภาษณ์3-4ครั้ง กับกรรมการที่เปลี่ยนคนไปเรื่อยๆ การสัมภาษณ์แบบกลุ่มกำลังกลายมาเป็นที่นิยมกัน ในการสัมภาษณ์ ส่วนใหญ่จะให้ความสำคัญในเรื่องของความเหมาะสมระหว่างคุณกับบริษัท และสิ่งที่สำคัญอีกอย่างคือคุณต้องสุภาพ และแสดงความเคารพต่อผู้บังคับบัญชาตามระดับด้วยเช่นกัน
สามารถดูรายละเอียดของแบบฟอร์มการสมัคร และคำแนะนำในการเขียนCV

การทำแบบทดสอบประเมินคุณสมบัติในประเทศอังกฤษ สามารถใช้ยื่นสมัครงานได้หรือไม่?
การทำแบบทดสอบประเมินคุณสมบัติในประเทศอังกฤษ ได้รับการยอมรับเป็นอย่างดีทั่วโลก แต่ต้องตรวจสอบกับทางผู้ว่าจ้างอีกครั้ง เพื่อดูในส่วนของคุณสมบัติที่ต้องการมากที่สุด ก่อนจะทำการสมัครงาน
แหล่งข้อมูลตำแหน่งงานที่ว่าง
เว็บไซต์หางาน
Daijob
Gaijinpot: Jobs in Japan
Japanese Jobs
Jobs in Japan
Tokyo Connections

บริษัทรับจัดหางาน
กองการจัดหางานแห่งชาติ และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ได้ให้ข้อมูลไว้ที่เว็บ ของสมาพันธรัฐแรงงานโลก และสามารถหาช่องทางการติดต่อบริษัทจัดหางานที่เป็นสมาชิกได้ที่ www.jassa.jp ของสมาคมจัดหางานประเทศญี่ปุ่น

หนังสือพิมพ์
The Japan News
Japan Times
แหล่งอื่นๆ
การส่งแบบฟอร์มการสมัครงานโดยตรงไปยังบริษัทของญี่ปุ่น ที่ตั้งอยู่ในประเทศอังกฤษ หรือบริษัทประเทศอังกฤษที่ตั้งอยู่ในประเทศญี่ปุ่นนั้น เป็นความคิดที่ดีมากอย่างหนึ่ง โดยเฉพาะถ้าคุณมีงานในใจอยู่แล้วที่ต้องการทำ
การเข้าไปติดต่อกับหน่วยงานต่างๆ ก็เป็นวิธีที่ดีอีกวิธีหนึ่งในการค้นหางาน คุณสามารถเริ่มติดต่อได้เลย ก่อนที่คุณจะไปประเทศญี่ปุ่นโดยผ่านองค์การต่างๆ เช่น:
องค์กรHashi no Kai ภาษาญี่ปุ่น และกลุ่มแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่ตั้งอยู่ที่กรุงลอนดอน
มูลนิธิประเทศญี่ปุ่น (สาขาลอนดอน)
หรือศูนย์การจัดหางานเพื่อชาวต่างชาติในกรุงโตเกียว

ประสบการณ์ที่จะได้รับในการทำงาน
สถานที่ตั้งของที่ทำงาน และการฝึกงาน
ถ้าคุณทำงานให้กับบริษัทยุโรปที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจในประเทศญี่ปุ่น คุณอาจมีคุณสมบัติที่เหมาะสมในการสมัครเข้าร่วมโครงการฝึกงานด้านบริหาร หรือETP นี่คือแผนการที่รวมการเรียนรู้ด้านภาษา และวัฒนธรรมไปด้วยในการฝึกงานครั้งนี้
คุณสามารถค้นหาการฝึกงานทั่วไปในประเทศญี่ปุ่นได้ที่เว็บของ

โครงการแลกเปลี่ยน
โครงการแลกเปลี่ยนภาษาญี่ปุ่น และการสอน หรือJET นั้นเป็นโครงการที่ให้ประสบการณ์ในการทำงานที่ได้รับความนิยมในหมู่ของนักศึกษาที่จบการศึกษาในประเทศอังกฤษ ในแต่ละปีโครงการนี้ได้ส่งนักศึกษากว่า1,000คนไปทำหน้าที่เป็นครูผู้ช่วยสอนภาษา ประสานงานด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และที่ปรึกษาด้านกีฬาในประเทศญี่ปุ่น ถ้าคุณเป็นนักเรียน คุณอาจสามารถสมัครงานในโครงการฝึกอบรมได้ที่องค์การAIESEC ที่มีงานต่างๆ ด้านการสอน และงานด้านจิตอาสา

แผนการสอน
นอกจากโครงการJETแล้ว ยังมีโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษที่อาจเสนอโอกาสในการทำงานในประเทศญี่ปุ่นให้คุณ รวมไปถึงบริษัทจัดหางานInterac และAeonด้วย บริษัทBerlitz Japan ซึ่งมีการว่าจ้างครูผู้สอนจากหลายภาษา และมีศูนย์ภาษาอยู่ทั่วประเทศอีกด้วย
งานชั่วคราว
เป็นไปได้ที่จะได้งานทำแบบชั่วคราวในประเทศญี่ปุ่น แต่คุณจำเป็นต้องมีวีซ่าที่ถูกต้อง ถ้าเหตุผลหลักของคุณที่จะมาประเทศญี่ปุ่นคือการพักร้อน และท่องเที่ยว แต่คุณต้องการทำงานร่วมไปด้วย เพื่อหาเงินคืนจากการท่องเที่ยว คุณอาจได้รับวีซ่าทำงานแบบท่องเที่ยว มิเช่นนั้นคุณจะต้องขอวีซ่าระยะยาว และคุณอาจต้องได้รับการสนับสนุนจากผู้ว่าจ้างของคุณ ซึ่งมันเป็นอะไรที่ยาก โดยเฉพาะถ้าคุณต้องการทำงานแค่เพียงในระยะสั้น
ประเภทงานชั่วคราว หรืองานระยะสั้นส่วนใหญ่ในประเทศญี่ปุ่น คือการสอนภาษาอังกฤษ การแปล งานโรงแรม งานในบาร์ และงานในร้านอาหาร

โอกาสงานด้านจิตอาสา และช่วงเวลาว่างหนึ่งปี

งานอาสาสมัครสามารถหาได้จากเว็บไซต์Volunteer Abroad และGlobal Giving แม้ว่าโอกาสในการได้งานอาสาสมัครจะมีมาก แต่ก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายด้วย
โอกาสในการหาประสบการณ์ในเวลาหนึ่งปี สามารถเข้าไปหางานอาสาได้ที่ Tokyo Connections และLatitude Global Volunteering เพราะเป็นโอกาสการหาประสบการณ์หนึ่งปี งานอาสาจึงมีค่าธรรมเนียม คุณสามารถพิจารณาจัดการหนึ่งปีของคุณเอง รวมไปถึงการสอนพร้อมกับการท่องเที่ยวด้วย

ข้อมูลเกี่ยวกับวีซ่า
คุณจำเป็นต้องมีวีซ่าไหม?
คนอังกฤษสามารถอยู่ในประเทศญี่ปุ่นเป็นเวลา6เดือน หรือน้อยกว่านั้น โดยไม่ต้องขอวีซ่า อย่างไรก็ตามการอยู่ที่ญี่ปุ่นพร้อมทำงานไปด้วยนั้น ต้องทำวีซ่าเท่านั้น
ถ้าเหตุผลหลักของคุณคือไปญี่ปุ่นเพื่อพักร้อน หรือท่องเที่ยว และคุณอยากที่จะทำงานเพื่อให้ได้เงินค่าเที่ยวคืน คุณอาจสามารถทำวีซ่าทำงานแบบพักร้อน คุณจำเป็นต้องมีอายุระหว่าง18-30ปี ถึงจะสามารถมีสิทธิรับวีซ่าดังกล่าวได้ และวีซ่านี้สามารถทำให้คุณอยู่ และทำงานในประเทศได้ถึง1ปี วีซ่าประเภทนี้มีจำนวนจำกัดสำหรับคนอังกฤษในแต่ละปี ดังนั้นควรทำวีซ่าไว้ก่อนโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ยิ่งดี ก่อนที่สิทธิจะเต็ม
ถ้าคุณต้องการทำงานในประเทศญี่ปุ่นในระยะยาวกว่านี้ คุณต้องสมัครวีซ่าทำงานอย่างเดียว การทำวีซ่าประเภทนี้ คุณจำเป็นต้องมีใบรับรองสภาพการอยู่อาศัย ออกโดยกระทรวงยุติธรรมในประเทศญี่ปุ่น แล้วคุณยังต้องมีผู้ค้ำประกันในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย (โดยทั่วไปจะเป็นนายจ้าง) ผู้ค้ำประกันจะเป็นผู้ติดต่อสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองท้องถิ่นเพื่อเขียนคำร้องขอใบรับรองสภาพการอยู่อาศัยให้คุณ
เมื่อคุณได้รับใบรับรองสภาพการอยู่อาศัยเรียบร้อยแล้ว คุณสามารถใช้เพื่อขอวีซ่าได้ มีหลายอาชีพที่ใช้วีซ่าประเภทนี้ ประกอบด้วย คุณครู ศิลปิน ผู้ทำกิจกรรมทางศาสนา นักข่าว นักธุรกิจ งานบริการด้านกฎหมาย และบัญชี งานบริการด้านการแพทย์ นักวิจัย ครูผู้สอน(รวมไปถึงคุณครูในโรงเรียน) วิศวกร ผู้เชี่ยวชาญทางด้านมนุษยศาสตร์ ผู้ให้ความบันเทิง และแรงงานที่ใช้ทักษะ คุณจะต้องยอมรับข้อบังคับของประเภทวีซ่าที่คุณใช้อยู่ด้วย ซึ่งระยะเวลาของวีซ่าประเภทนี้ได้มากที่สุดถึง5ปี
เมื่อคุณมาถึงประเทศญี่ปุ่น คุณต้องสมัครลงทะเบียนผู้อยู่อาศัยที่สำนักงานราชการส่วนท้องถิ่นภายใน14วันหลังจากมาถึงประเทศญี่ปุ่น
ถ้าคุณไม่ใช่คนอังกฤษ ให้คุณติดต่อสถานทูตญี่ปุ่นในประเทศที่คุณอยู่ในขณะนั้น เพื่อสอบถามเกี่ยวกับการขอวีซ่า และการขออนุญาตทำงาน ถ้าคุณอยู่ในประเทศอังกฤษ ให้คุณไปติดต่อที่สถานทูตญี่ปุ่นในประเทศอังกฤษ

คุณจะเปลี่ยนเป็นผู้อยู่อาศัยแบบถาวรได้อย่างไร?
ในการขอถิ่นที่อยู่อาศัยอย่างถาวรในประเทศญี่ปุ่น คุณจำเป็นต้องอยู่ในประเทศญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่องเป็นเวลากว่า10ปี หรือมากกว่านั้น คุณต้องมีความประพฤติที่ดีในขณะที่อาศัยอยู่ในประเทศด้วย และมีสินทรัพย์ที่มั่นคง หรือสามารถอยู่ในประเทศญี่ปุ่นได้โดยไม่ต้องพึ่งพาใคร คนที่จะได้รับถิ่นที่อยู่ถาวรนั้นสามารถอยู่ในประเทศญี่ปุ่นโดยไม่จำกัดเวลา และได้รับอนุญาตให้ทำงานอะไรก็ได้
ชีวิตความเป็นอยู่ในประเทศญี่ปุ่น
ค่าครองชีพ: ในส่วนของรายได้ โดยส่วนใหญ่สามารถเปรียบเทียบกับประเทศอังกฤษได้ แต่อาจถูกกว่าเพียงเล็กน้อย
โดเมนในญี่ปุ่น: .jp
ค่าเงิน: เยน (¥)
สุขภาพ: การอำนวยความสะดวกด้านการแพทย์ในประเทศญี่ปุ่นนั้นมีประสิทธิภาพสูง มีหมอจากประเทศอังกฤษจำนวนไม่มากที่ทำงานในประเทศญี่ปุ่น แต่มีหมอที่เป็นคนญี่ปุ่นจำนวนมากที่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ การรักษามีราคาแพง และคุณต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลเต็มจำนวน ดังนั้นการทำประกันสุขภาพนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างหนึ่ง
ประเภทของรัฐบาล: รัฐสภาในระบบประชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ
กฎหมาย และขนบธรรมเนียม: โดยทั่วไปแล้ว การลงโทษสูงสุดของผู้ฝ่าฝืนกฎหมายในประเทศญี่ปุ่น มีความรุนแรงมากกว่าประเทศอังกฤษ ไม่มีอาชญากรรมเรื่องยา แต่คนอังกฤษจำเป็นต้องระมัดระวังในการซื้อยา และการขายยาโดยไม่มีใบสั่งจ่ายยาจากแพทย์ ซึ่งจะไม่ขายให้กับผู้ซื้อในประเทศญี่ปุ่น คุณต้องนำพาสปอร์ต หรือบัตรถิ่นที่อยู่อาศัยในการซื้อตลอดเวลา
Emergency numbers: ambulance and fire department: 119, police: 110. UK citizens can also get help in an emergency from the British Embassy in Japan.
หมายเลขฉุกเฉิน: รถพยาบาล และศูนย์ดับเพลิง: โทร119, ตำรวจ: โทร110, คนอังกฤษสามารถขอความช่วยเหลือฉุกเฉินจากสถานทูตอังกฤษในประเทศญี่ปุ่น
จำนวนประชากร: คนญี่ปุ่น 98.5% คนเกาหลี0.5% คนจีน 0.4% และอื่นๆ 0.6%
ศาสนาประจำชาติ: ลัทธิชินโต และศาสนาพุทธ

40วิธี ในการใช้ชีวิตช่วงฤดูฝนที่ประเทศญี่ปุ่น

1.ซื้อเครื่องปรับอากาศ แม้ว่าคุณอาจคิดว่าลงทุนซื้อรถน่าจะดีกว่า
2.ลองใช้พัดลมไฟฟ้าสักตัว (หรือสอง หรือสาม…หรือสิบตัว) พัดลมเป็นทางเลือกที่ดีเยี่ยมอีกอย่างหนึ่ง ถ้าคุณปรารถนาที่จะหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องปรับอากาศ เนื่องจากมันมีผลกระทบที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม *เคล็ดลับ: วางชามที่ใส่น้ำแข็งไว้ตรงหน้าพัดลม เพื่อให้ไอความเย็นพัดออกมา
3.ออกไปข้างนอก ใช้ประโยชน์จากเครื่องปรับอากาศในที่สาธารณะ และบนรถขนส่งสาธารณะ บนรถไฟ ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์ แน่นอนว่าคุณต้องจ่ายเงินเล็กน้อยเมื่ออยู่ที่เหล่านั้น แต่มันถูกกว่าที่คุณจะซื้อเครื่องปรับอากาศสักตัว (ถ้าในกรณีที่คุณไม่อยากซื้อจริงๆนะ)
4.อย่าออกไปข้างนอก ซึ่งเป็นกรณีที่ตรงข้ามกับข้อ2ที่กล่าวไป ถ้าคุณมีเครื่องปรับอากาศเป็นของตัวเอง ทำไมคุณจะไม่อยู่ที่บ้านล่ะ จริงไหม?
5.พกผ้าเช็ดเหงื่อไปด้วย ทุกคนใช้ผ้าเหล่านี้ คุณจะต้องการมันแน่นอน ในวันที่คุณลืมเอาผ้าไป เป็นวันที่คุณพลาดจริงๆ (ฉันรู้ แต่จริงๆนะ การลืมผ้าเช็ดเหงื่อนี่เป็นอะไรที่ลำบากมาก โดยเฉพาะเมื่อคุณต้องการเช็ดเหงื่อของคุณออกไป แล้วเสื้อผ้าคุณก็จะเต็มไปด้วยเหงื่ออีกด้วย)
6.ดื่มน้ำเปล่ามากๆ พกน้ำเปล่าไปสักขวด แน่นอนว่าเครื่องจำหน่ายสินค้าแบบหยอดเหรียญในทุกที่ ทำให้เป็นไปไม่ได้เลยว่าเราจะขาดแคลนน้ำดื่ม แต่ทำไมไม่แสดงให้โลกรู้ไปเลยล่ะว่าคุณห่วงใยโลกของคุณ? โดยเฉพาะถ้าคุณมีเครื่องปรับอากาศเป็นของคุณเอง หรือการพกสิ่งของที่สิ้นเปลือง (แม้ว่าจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ในประเทศญี่ปุ่น)
7.ซื้อพัดลมพกพาน่ารักๆ (団扇, uchiwa or 扇子, sensu) หรือแค่ไปรับพัดลมพลาสติกฟรี แจกที่ทางออกของสถานีรถไฟ
8.กินฮิยาชิ ชูอุกะ และซารุโซบะ และโซเมน โดยทั่วไปแล้วแค่กินบะหมี่เย็นก็พอ
9.ปล่อยใจไปกับซอล์ฟครีม นี่เป็นโอกาสของคุณในการลองรสชาติต่างๆของครีมที่คุณต้องการ เพื่อรับความเย็นจากตัวครีมด้วยเช่นกัน ต้องควบคุมน้ำตาล? ควบคุมอาหารอยู่? อา ก็ลองดูข้อ19 ลองโฟร โยพ หรือซอร์เบ็ทแทน
10. ใช้ร่ม ร่มไม่ได้ใช้กับฝนในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น! หน้าฝนเป็นอีกครั้งที่ต้องใช้ร่ม ดังนั้นร่มจึงมีประโยชน์สองอย่าง
11.ตั้งแคมป์ที่ชายหาด ถ้าในกรณีที่พื้นเริ่มสั่น ให้เรารีบวิ่งหนีออกห่างจากชายหาด
12.ตัดผม ให้สั้นที่สุดเท่าที่จะทำได้
13.ยอมรับความจริง ที่ผมของคุณจะไม่อยู่ทรง และหงิกงอใน2-3เดือนถัดมา
14.ไปว่ายน้ำ (ไปทำเลย ไม่ต้องพูด)
15.มุ่งสู่ป่าเขา มันจะเย็นกว่า อย่างน้อยให้ไปเขาที่มีป่าไม้ ไม่ใช่ไปภูเขาที่ไม่มีต้นไม้อยู่เลย
16.ป้องกันตัวเองจากแมลงต่างๆ พวกมันมักจะมาเป็นฝูง
17.ซื้อมุ้งกันยุงไว้นอน ถ้าคุณเหมือนฉัน และเป็นที่ต้องตาต้องใจของยุงตลอดเวลา โดยเฉพาะตอนกลางคืนในขณะที่หลับอยู่ ลองหาอะไรป้องกันดู (ลองดูบทความเกี่ยวกับการไล่ยุงด้านล่างนี้)
18.ถ้าคุณไม่ซื้อมุ้ง ก็ให้คุณยอมรับความจริงว่าคุณอาจจะหลับไม่สบาย เนื่องจากยุงมีมากในช่วงฤดูร้อน ถ้าคุณนอนตัวแข็งเหมือนหิน คุณจะโดนกัดอย่างแน่นอน ถ้าไม่นั้นคุณต้องเป็นคนที่โชคดีแน่ ถ้าคุณไม่โดนยุงกัดเลย ฉันหวังว่าฉันจะเป็นคุณ

*สำหรับคู่มือที่สมบูรณ์เกี่ยวกับวิธีการกำจัดยุงในช่วงหน้าร้อนที่ประเทศญี่ปุ่นนั้น ลองเข้าไปดูที่ A Survival Guide to Mosquito Repellent in Japan และสำหรับใครที่โดนยุงกัด ให้ลองเข้าไปดูที่ How to Find Anti-itch, Insect Medicine in Japan
19.ซื้อเครื่องทำไอศครีมจากเว็ปAmazon.jp (ต้องมั่นใจว่าช่องแช่แข็งของคุณมีเพียงพอก่อน หรือไม่คุณก็ต้องมีช่องแข่แข็งนะ….)
20. อาบน้ำ2ครั้ง (ไม่นะ นี่ไม่ใช่ต้นไม้ แต่คุณจำเป็นต้องอาบน้ำ)
21.แวะไปแช่ออนเซ็น หรือเซนโตะ เพื่อชำระล้างเหงื่อไคล และสิ่งสกปรกอื่นๆที่ติดตามร่างกายของคุณ
22.ยอมรับความจริงว่าผู้คนจะพูดคำว่า “atsui desu ne” (暑いですね, มันร้อน ใช่ไหมล่ะ) ซ้ำไปซ้ำมา ในช่วง2-3เดือนต่อจากนี้ แม้ว่าคุณ และพวกเขาเหงื่อออกกันทั้งห้อง มีคนจำนวนมาก รู้สึกอากาศมันซึมเซา และเห็นได้ชัดว่าคุณทั้งหมดรู้สึกท้อแท้เพราะอากาศที่ร้อน บางคนจะเริ่มส่งเสียงออกมาว่า “มันร้อน ใช่ไหมล่ะ
?”
23.อย่านั่งในโรงยิมของโรงเรียน กับนักเรียนทั้งหมด แล้วถ้าเมื่อประตูโรงยิมปิดด้วยแล้ว อย่าทำมัน
24.ดื่มโอชา (ชาเขียว) และมูกิชา (ชาเปล่า) และชาเย็นอย่างอื่นอีกมากมาย
25.ทาผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นตัว (เห็นได้ชัดว่าควรทำ)
*คุณสามารถหาผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นตัวได้ไหม? ลองดูบทความนี้ How to Find (Good) Deodorant in Japan
26.ออกไปเที่ยว ไปที่ที่ไม่ใช่ฤดูฝน หรืออยู่ในช่วงกลางของฤดูหนาว
27.ยอมรับความจริงว่าเหงื่อของคุณจะค่อนข้างออกบ่อย ถ้าคุณไม่พกผ้าเช็ดเหงื่อไปด้วย
28.ใส่เสื้อผ้าที่แห้งง่าย ใช้เงินไปกับการซื้อเสื้อผ้าตามร้านต่างๆ หรือแค่ไปร้านยูนิโคลก็ได้
29.เชื้อรามักจะมีในที่ต่างๆ พยายามทำให้พื้นที่ห้องของคุณมีอากาศระบาย นำอาหารไปแช่ช่องแข็ง
30.พกทิชชู่เปียก ทิชชู่เปียกเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยม และควรพกไปคลอดปี แต่คุณอาจพบว่ามันจำเป็นมากกว่าในช่วงฤดูร้อน เมื่อคุณออกไปข้างนอก

31.พกเสื้อผ้าไปเพิ่ม โดยปกติแล้วจะเป็นแจ็คเก็ตกันฝน ถ้าไม่ได้พกร่มไป ถุงเท้า หรือรองเท้าแตะที่พกง่ายไปเพิ่มด้วย เสื้อ และกางเกงที่นำไปเผื่อไว้ อาจมีประโยชน์ ถ้าคุณพบว่าตัวคุณเปียก (ไม่ว่าจากฝน หรือเหงื่อก็ตาม)
32.นำทิชชู่เป็นแพ็คติดไปด้วย ทุกคนจะเห็นว่าใกล้สถานีรถไฟมีจำหน่ายทั่วไป โดยที่คุณไม่รู้เลยว่าวันนึงคุณจำเป็นต้องมีมัน
33.ซื้อเครื่องปั่น
34.ทำน้ำปั่นด้วยเครื่องปั่น ซื้อผลไม้แช่แข็งจากร้าน The Flying Pig แล้วเพิ่มผัก ตามด้วยอะไรก็ได้ที่คุณชื่นชอบลงไปปั่นรวมกัน
35.ใส่รองเท้าแตะแบบยางยี่ห้อcrocs ทุกคนที่นี่ใส่กันหมด โดยเฉพาะช่วงฤดูร้อน และฤดูฝน มันกันน้ำ ถูก และ… ดูทันสมัย? เมื่ออยู่ในกรุงโรม…
36. ซื้อแผ่นแปะกันเหงื่อ
37.ดื่มน้ำเกลือแร่ และกินอาหารที่มีส่วนผสมของซอสถั่วเหลือง ต้องมั่นใจว่าคุณได้กินอาหารที่มีเกลือเพียงพอกับที่คุณเสียเหงื่อไป โดยเฉพาะถ้าคุณมีความดันเลือดต่ำ (แน่นอนว่าถ้าคุณมีความดันเลือดสูง ไม่ต้องทำสิ่งเหล่านี้)
38. อาบน้ำเย็น หรือแช่น้ำในอ่าง
39.ใช้เครื่องซักผ้า และเครื่องอบผ้า หรือเครื่องดูดความชื้น ที่จะช่วยให้เสื้อผ้า และที่นอนของคุณแห้ง ถ้าคุณจำเป็นต้องใช้มันโดยทันที คุณสามารถตากไว้ด้านนอก (เป็นธรรมเนียมปกติของคนที่นี่) แต่ต้องเตรียมใจไว้ว่าใช้เวลานานกว่าจะแห้ง
40.อยู่ที่เมืองฮอกไกโด ที่เมืองนั้นไม่มีแม้กระทั่งฤดูฝน (อา แต่ฤดูหนาวเป็นเรื่องที่ต่างออกไปโดยสิ้นเชิง)

แล้วคุณล่ะ ผู้ติดตามที่อาศัยในประเทศญี่ปุ่น? คุณจะใช้ชีวิตอย่างไรในช่วงฤดูฝนนี้?

การรวมตัวของชาวญี่ปุ่นในช่วงฤดูร้อน 2011

ฤดูร้อนเป็นช่วงผ่อนคลายในประเทศญี่ปุ่น แม้ว่าจะมีอุณหภูมิที่สูงในปีนี้ แต่เราก็ไม่ได้รู้สึกร้อนขนาดนั้น ถ้าคุณติดตามSiJตลอดทั้งช่วงหน้าร้อน คุณอาจเห็นบทความหลายบทความที่เกี่ยวกับฤดูร้อนแล้ว แต่ถ้าคุณยังไม่เห็น หรือคุณพลาดบางบทความไป คุณสามารถเข้าไปดูได้ผ่านรายการด้านล่างนี้ ฉันได้รวบรวมลิงค์ที่เกี่ยวกับช่วงฤดูร้อนที่น่าสนใจไว้แล้วบนTwitter และFacebook ขอให้สนุกกับการอ่าน!

วิธีการป้องกัน และกำจัดแมลงสาบ
อะไรที่คุณสามารถทำให้เจ้าศัตรูตัวร้ายออกไปจากบ้านของคุณได้?

วิธีหาสระน้ำผ่อนคลาย หรือสวนน้ำในประเทศญี่ปุ่น
ถ้าคุณกำลังมองหาสถานที่ที่สนุกที่จะเพิ่มความร้อนให้ร่างกาย

7วิธี ในการไปดูหนังที่ประเทศญี่ปุ่น
นี่ไม่ใช่บทความที่เกี่ยวกับหน้าร้อน แต่ช่วงนี้เป็นช่วงของการดูหนัง ไม่ต้องคิดอะไรมาก เพราะโรงภาพยนตร์มีเครื่องปรับอากาศ

วิธีอยู่แบบเย็นสบายโดยไม่ต้องพึ่งเครื่องปรับอากาศ “พัดลมเย็น” หรือ……
ประหยัดเงินของคุณ และได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าพัดลมทั่วไป

วิธีค้นหาเทศกาลดอกไม้ไฟ(……) ในช่วงฤดูร้อนนี้
เทศกาลดอกไม้ไฟ เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของฤดูร้อนในประเทศญี่ปุ่น ดังนี้นี่คือวิธีการหาเทศกาลดอกไม้ไฟ

คู่มือในการเลือกซื้อครีมกันแอดในประเทศญี่ปุ่น
อะไรคือP++? มันแตกต่างอย่างไรกับUVB และ UVA? คุณสามารถหาซื้อครีมกันแดดแบบกันน้ำได้ไหม? อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่

6เหตุผลที่คุณควรใช้ถ่านใบไผ่ (ทาเกะซูมิ)
อย่าประเมินค่าของคุณภาพใบไผ่ต่ำไป โดยเฉพาะถ่านใบไผ่

ผลิตภัณฑ์ดับกลิ่น: อะไรอยู่ข้างในผลิตภัณฑ์ อไรดีที่สุด และอะไรที่คุณคิด
หัวข้อนี้เป็นหัวข้อที่เราต้องมาถกเถียงกัน อะไรที่คุณรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ดับกลิ่นกาย และผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อ? คุณอาจจะตกใจก็เป็นได้…

คู่มือการอยู่รอดในการไล่ในประเทศญี่ปุ่น
ทำอย่างไรให้ยุงไปอยู่ในอ่างน้ะ

วิธีหายาแก้อาการคัน แมลงกัดต่อย ในประเทศญี่ปุ่น
ถ้าคุณโดนกัด ทั้งๆที่คุณพยายามป้องกันสุดความสามารถแล้ว ลองดูที่บทความนี้ว่าอะไรสามารถช่วยคุณลดปัญหาเหล่านี้ได้บ้าง

ด้านล่างนี้เป็นลิงค์น่าสนใจที่เกี่ยวกับฤดูร้อน

การไล่ความร้อนจากรถที่เหมือนเตาอบ ด้วยกลยุทธ์ของประตูญี่ปุ่น

แค่อากาศร้อนเอง! หนีเครื่องปรับอากาศเท่าที่คุณสามารถทำได้

สู้อากาศร้อนด้วยการออกไปปีนเขา ทั้งหมดที่เมืองโตเกียวสามารถอ่านได้ที่CNNGo

ดื่มน้ำเย็น และอาหารที่เย็น เพื่อเอาชนะความร้อน อ่านได้ที่Japan Pulse

ประหยัดพลังงานในห้องครัว ช่วงฤดูร้อนนี้ I Japan Times

อุปกรณ์ล่าสุด และเยี่ยมสุดของการเก็บความเย็นใน อ่านได้ที่Japan Pulse

หวังว่าคุณจะเพลิดเพลินไปกับช่วงสัปดาห์ที่เหลือในหน้าร้อนนี้นะ (ถึงแม้อากาศจะร้อนมากก็ตาม)!

24 วิธีที่จะอยู่ในประเทศญี่ปุ่นอย่างอบอุ่นในหน้าหนาว

ดังนั้น คุณเตรียมบ้านของคุณในประเทศญี่ปุ่นให้ดีที่สุดเท่าที่คุณสามารถทำได้ในช่วงฤดูหนาว และคุณต้องมีเครื่องทำความร้อนหนึ่ง หรือสองตัวด้วย หรือในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า โต๊ะโคะตาสึ ไว้เก็บความอบอุ่น มีอะไรบ้างที่คุณสามารถทำเพื่อใช้ชีวิตอยู่ในช่วงหน้าหนาวในประเทศญี่ปุ่น

หมายเหตุ: ลิงค์amazonด้านล่างนี้ได้ถูกรวมเอาไว้แล้ว ไม่ใช่ลิงค์ของAmazonไม่มีในที่นี้

1. ยี่ห้อแคร์รี่ หรือไคโระ (カイロ) โต๊ะให้ความอบอุ่น ขนาดเล็ก (ประมาณฝ่ามือ) เป็นชนิดใช้แล้วทิ้ง คุณต้องเปิด และเขย่ามันก่อนใช้ มันสามารถอยู่ได้ประมาณ2-3ชม. คุณสามารถใช้วางไว้ในรองเท้า รอบเข่า รอบเอว หรือแม่กระทั่งรอบข้อมือ นี่เป็นตัวอย่าง
ฉันสังเกตว่าเทรนด์ของอีโค ไคโร (エコカイロ) ในปีนี้ ชนิดแบบอีโคมีมากมาย แต่บางชนิดมีเจลอยู่ด้านใน และคุณต้องอุ่นมันไว้ในไมโครเวฟก่อน บางชนิดก็ใช้แบตเตอรี่ (ฉันไม่แน่ใจว่าชนิดนี้ประหยัดแค่ไหน)

2.ใช้ผ้าห่มแบบรัด ไม่ว่าคุณจะทำวาน หรืออยู่บ้าน ผ้าห่มที่มีขนาดเล็กกว่านี้นั้นมีประโยชน์ในการพกพาไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก
ต้องมองหาคำว่า ひざかけ (膝掛け)

3.หรือผ้าห่มอวกาศ พวกมันไม่เพียงแต่เป็นประกาย ยังดูเหมือนบางอย่างในโลกอนาคตอีกด้วย (คุณสามารถหาซื้อได้ด้วยเช่นกัน) ผ้าห่มชนิดใช้สำหรับคลุมรางกาย ให้หาคำว่าスペースケット

4.หรือผ้าห่มไฟฟ้า ลองหาคำว่า電気毛布 (でんきもうふ, denkimoufu)

5.ใช้ถุงน้ำร้อน (湯たんぽ, ゆたんぽ) ใช้ได้ดีโดยเฉพาะกับเท้าที่เย็น

6.รับกระทานอาหารปรุงร้อน เช่นนาเบะ แกงกะหรี่ ราเมน หรืออาหาปรุงรร้อนชนิดอื่นๆ อาหารจานไหนเป็นจานดปรดของคุณ?

7.ดื่มชาร้อนเยอะๆ โดยเฉพาะถ้าที่ทำงานของคุณมีบริการชาร้อนให้ฟรี

8.ดื่มเครื่องดื่มร้อน จำไว้ว่าเครื่องจำหน่ายสินค้าแบบหยอดเหรียญ และร้านสะดวกซื้อ มีส่วนของ”เครื่องดื่มร้อน”จำหน่ายอยู่ (ส่วนใหญ่จะมรฉลากสีแดงติดอยู่ และมีคำว่าあったかいหรือที่แปลว่า “เครื่องดื่มร้อน” ในขณะที่เครื่องดื่มเย็นจะมีฉลากสีฟ้าติดอยู่ แล้วเครื่องจำหน่ายสินค้าแบบหยอดเหรียญนั้น จะเปลี่ยนสินค้าภายในไปเรื่อยๆตามสภาพอากาศ)

ตอนฉันมาถึงประเทศญี่ปุ่นครั้งแรก ฉันไม่รู้เลยว่าเราสามารถซื้อเครื่องดื่มร้อนจากเครื่องจำหน่ายสินค้าแบบหยอดเหรียญได้ และเมื่อฉันเลือกชาเย็น คิดดูนะว่าฉันแค่กดเลือกชาไปแบบธรรมดาจากเครื่องจำหน่ายสินค้าแบบหยอดเหรียญ คนที่อยู่ข้างฉันมองมาทางฉัน แล้วทำหน้าตกใจอย่างที่สุด

“คุณไม่อยากดื่มเครื่องดื่มร้อนๆหรอ” เธอถามฉัน

“อะไรนะคะ? มีเครื่องดื่มร้อนๆด้วยหรอคะ?”

“ใช่สิ” เธอชี้ไปที่เครื่องดื่มที่มีฉลากสีแดงติดอยู่ “พวกนี้แหละ เป็นเครื่องดื่มชนิดร้อน”
“ฉันพลาดไปได้อย่างไรเนี่ย…”

ฉันไม่มั่นใจว่ามีแต่ฉันคนเดียวไหมที่เป็นแบบนี้ แต่ฉันไม่เคยไปแตะเครื่องจำหน่ายสินค้าแบบหยอดเหรียญ เพื่อซื้อเครื่องดื่มชนิดร้อน ตอนที่อยู่ที่อเมริกาเลย ส่วนใหญ่เครื่องเหล่านี้จะตั้งอยู่ที่โรงเรียน หรือสถานพยาบาล และอื่นๆใครต้องการเครื่องนี้ในร้านกาแฟ ตามถนนทุกแห่งบ้าง? ไม่ว่าอย่างไรก็ตามฉันมาจากซีแอตเติล

9.ชุดฮีทเทคจากร้านยูนิโคล่ ร้านไหนที่คุณจะซื้อชุดใส่ข้างใน ถ้าไม่ใช่จากร้านยูนิโคล่ ขนสัตว์ หรือไหม ก็เป็นวัสดุชั้นดีเช่นกัน (คุณจะไม่รู้สึกคัน ขนสัตว์มีน้ำหนักเบา ขนแกะก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วยเช่นกัน) ถ้าคุณรู้สึกหนาวจนทรมานเหมือนฉัน คุณจะขอบคุณเสื้อขนสัตว์เหล่านี้แน่นอน!

10. วัสดุของชุดตัวนอก ในขณะที่คุณกำลังเลือกซื้อชุดข้างในตัวยาวอยู่นั้น บอกตัวเองว่าให้ซื้อเสื้อโค้ทอบอุ่นในหน้าหนาวด้วย ฉันแนะนำให้ซื้อแบบไหนก็ได้ที่ทำจากขนเป็ด ร้านยูนิโคล่ และร้านมูจิก็มีเสื้อพวกนี้จำหน่ายด้วยเช่นกัน แต่นี่เป็นความลับนะ ร้านเซียร์รา เทรดดิ้ง โพสท์ ลดกระหน่ำบ่อยมาก สำหรับแจ็คเก็ตขนเป็ด (ฉันไม่ได้โฆษณาให้เสื้อพวกนี้นะ) แต่ก็ต้องระมัดระวังถ้าคุณอยากได้เสื้อที่มีขนมาประดับ อย่างการสั่งตัด อาจทำให้ได้ถ้าคุณสั่งจากทางร้านให้มาจัดส่งโดยตรง

11.อย่าลืมที่ครอบหู หมวก ถุงมือ ผ้าพันคอ ฉันชอบที่ครอบหูของร้านมูจิจริงๆ โอ้ แล้วก็ผ้าพันคอด้วย ในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า ストール หรือ マフラー
12.โทรศัพท์ และไอแพดได้ แล้วยังให้ความอบอุ่นกับนิ้วของคุณด้วยเช่นกัน (ฉันเคยเห็นที่ร้านLoft และร้านTokyu Hands)
13.แวะไปที่ร้านาSento(銭湯, せんとう) หรือร้านOnsen (温泉, おんせん)ที่ใกล้บ้านคุณที่สุด นี่เป็นสิ่งที่ต้องทำในฤดูหนาวเลยนะ
14.ใช้ผลิตภัณฑ์อย่าง Kairo บนผิวของคุณ เช่น “温熱シート” (เหมือนแผ่นแปะความร้อน) หรือ “こしカイロ” (แผ่นแปะหลังให้อุ่น) หรือ “ゆたぽん” ที่มีเจลอยู่ในผลิตภัณฑ์ เพื่อนำเข้าไมโครเวฟ และสามารถใช้วางไว้ที่รอบไหล่ เท้า และที่อื่นๆ เพื่อให้ความอุ่นกับคุณได้ ลองดูที่นี่ มีไอเดียมากมาย หรือเข้าไปที่ร้านขายของชำ หรือร้านสะดวกซื้อใกล้บ้านของคุณ (หรือร้านLoft ร้านTokyu Hands เป็นต้น)
15.ขึ้นรถไฟ ในนั้นอุ่น คุณจะรู้สึกอุ่นขึ้นมาทันที
16.เคลื่อนไหวร่างกาย ปั่นจักรยาน เดิน วิ่ง ว่ายน้ำ เล่นยิม หรือแม้กระทั่งการทำงานบ้าน จะช่วยทำให้คุณอุ่นขึ้นเล็กน้อยกว่าการนั่งอยู่เฉยๆ (อย่างการอุ้มเด็กทั้งวัน….)
17.ถ้าคุณมีฟูกนอน แล้วเครื่องเป่าฟูกล่ะเป็นยังไง? เพื่อนรักของฉันชื่อ Sally บอกว่าเครื่องเป่าฟูกได้ผลดีสำหรับเป่าฟูกให้อุ่นก่อนนอน ลองดูที่ ふとん乾燥機 (ふとんかんそうき, futon kansouki)
18.ลองใช้Hanten (はんてん) อธิบายโดยคุณAndrea